เพชรแท้จากธรรมาชาติเมื่อถูกขุดขึ้นมาจากชั้นดินในแหล่งขุดหาเพชรใหม่ๆ สภาพก็จะเหมือนแค่ก้อนใสๆ ก้อนหนึ่งไม่ได้มีความงามวาบวับจับแสงไฟเหมือนที่เราเห็นร้านเพชรเลยแม้แต่น้อย
การเจียระไน (Cut Grading) คือขั้นตอนการแปลงโฉมด้วยความเชี่ยวชาญของผู้เจียระไน จนทำให้กลายเป็นเพชรเม็ดงามและเพิ่มมูลค่าให้ก้อนเพชรเม็ดนั้นขึ้นอีกหลายเท่าตัวตามคุณภาพของการเจียระไน
GIA สถาบันอัญมณีที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ได้กำหนดคุณภาพของการเจียระไน (Cut Grade) เป็น 5 ระดับ คือ
- Excellent คุณภาพดีเยี่ยม
- Very good คุณภาพดีมาก
- Good คุณภาพดี
- Fair คุณภาพพอใช้ได้
- Poor คุณภาพต่ำ
เกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดคุณภาพของการเจียระไน เช่น ความสวยงามเมื่อเพชรเล่นไฟ ,อัตราส่วนน้ำหนักเพชรที่ถูกต้อง, ความสมบูรณ์แบบของการเจียระไน และ ความทนทานเมื่อใช้งาน เป็นต้น
นอกจากคุณภาพของการเจียระไนแล้ว รูปทรงต่างๆ ของเพชร ไม่ว่าจะทรงกลม ทรงเหลี่ยม หัวใจ หยดน้ำ ก็มีผลต่อความสวยงามและมูลค่าของเพชร ด้วยเช่นกัน
เทคนิคการเจียระไนที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันมี 4 เทคนิค คือ
1. Brilliant -Cuts
เป็นเทคนิคที่นิยมและเป็นรูปแบบสากล เนื่องจากเป็นเทคนิคเจียระไนที่ทำให้สูญเสียเนื้อเพชรน้อยที่สุด และทำให้เพชรมีไฟสวยที่สุด
2. Step-Cuts
เป็นเทคนิคเจียระไนเป็นชั้นๆ ซึ่งในการเจียระไนรูปแบบนี้ จะทำให้เพชรแต่ละแบบ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สวยงามแตกต่างกัน เช่น รูปทรง emerald, square, Baguette เป็นต้น
3. Mixed-Cuts (แบบเหลี่ยมผสม)
เป็นการเจียระไนที่มีทั้งเป็นเหลี่ยมชั้นๆ และเหลี่ยมเกสร ในเพชรเม็ดเดียว โดยส่วนบนจะเจียระไนแบบเหลี่ยมเกสรและส่วนล่างจะเจียระไนแบบเหลี่ยมผสม เพื่อจะช่วยให้รักษาน้ำหนักเพชรไว้ให้ได้มากที่สุดและจะทำให้สีของเพชรดูดียิ่งขึ้นและสวยมากขึ้นด้วย
4. Fancy-Cuts
เป็นเทคนิคเจียระไนแบบใหม่ที่เรียกว่า “ออปติกซ์” ซึ่งจะทำให้เพชรมีแสงแวววาวทุกทิศทาง จึงเห็นประกายแวววาวมากกว่าเพชรที่เจียระไนแบบอื่นๆ
เพชรแต่ละเม็ดเมื่อครั้งที่พบจากธรรมชาติรูปทรงจะแตกต่างกัน ช่างเจียระไนต้องใช้จิตนาการและความเชี่ยวชาญเป็นอย่างสูงถึงจะทำให้เพชรเม็ดนั้นงดงามในแบบฉบับที่เหมาะสมที่สุด และหากคุณกำลังมองหาเพชรเพื่อตกแต่งเป็นแหวนแต่งงาน ร้านเพชร abovediamond.com มีรูปแบบเพชรให้เลือกมากมายซึ่งล้วนผ่านการรังสรรค์ผลงานโดยช่างเชียระไนผู้ชำนาญทั้งสิ้น